เพซเซอร์จำเป็น

เป็นเรื่องราวดีๆของแอดมิน ที่เกิดขึ้นที่จอมบึงมาราธอนที่ผ่านมาครับ

จริงๆ แชร์ไว้ในกรุ๊ป 42.195 แล้ว แต่ขออนุญาติเอามาแชร์ให้อ่านกันในเพจด้วย ^_^

ถ้าคุณวิ่งเร็ว

ผมดีใจด้วย

คุณได้ถ้วยกลับไป

 

แต่ผมวิ่งช้า

ผมก็ดีใจ

เพราะผมได้เพื่อนกลับมา

12573027_1003183369720479_8067093396531464090_n.jpg

เคยวิ่งมาราธอน แล้วมีคนแอบวิ่งตามไหม๊ครับ?

เคยต้องกลายเป็นเพซเซอร์จำเป็น ให้คนลงมาราธอนครั้งแรก แล้วต้องลากเค้าให้จบไหม๊ครับ?

จอมบึงที่ผ่านมา ผมเพิ่งกลายเป็นเพซเซอร์ส่วนตัวให้น้องผช.คนนึง ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หน้าก็ไม่คุ้น ชื่อก็ไม่รู้ ไม่ได้นัดกันล่วงหน้า แต่ดันมีเพซใกล้เคียงกัน!

เห็นตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ท ผช.คนนึงใส่หมวกสานสะพายเป้น้ำดูโดดเด่น (เห็นแค่นั้น มันมืด!) เห็นกันมาเรื่อยจนประมาณกิโลที่ 10  เริ่มเอะใจว่าน้องคนนี้มันจะวิ่งนำหน้าเรานิดนึง ไม่ก็วิ่งตามหลังเราหน่อยนึง …

เริ่มจับสังเกตุได้ว่า น้องชะลอและเร่งเหมือนเรา โดยพยายามวิ่งอยู่ใกล้ๆ เดาว่าเพื่อให้ได้ยินเสียงนาฬิกาของเรา (ตั้งโปรแกรมการวิ่งไว้ในนาฬิกา มันจะดัง “บิ๊บๆ”)

แต่น่าจะคิดไปเอง พอถึงโลที่ 15 เลยค่อนข้างแน่ใจ ว่าน้องมันวิ่งตามเสียงนาฬิกากรูแน่ๆ เลยหันไปสบตา ตบไหล่  “ไป! ไปด้วยกัน!!”

น้องหัวเราะแหะๆ ยอมรับว่าวิ่งตามเสียงนาฬิกาจริง ตามมาหลายโล คิดว่าถ้าตามไปเรื่อยๆแบบนี้ น่าจะจบ น้องชื่อตั้ม แบกเป้วิ่งสวนรถไฟ ลงกรุงเทพมาราธอน ซ้อมเตรียมตัวอย่างดี แต่เอ็นข้อเท้าดันขาดซะก่อน (จากตีแบด) เลยอด ลงจอมบึงไว้ ก่อนมาเพิ่งหาย แต่ที่ซ้อมไว้ก็หายด้วย ก่อนมาซ้อมแค่ 10โลเอง แต่อยากมา และคาดว่าอาจวิ่งไม่จบ!

“จริงๆ ผมหมดตั้งแต่สิบโลแรกแล้วพี่ แต่ก็แอบเกาะพี่มาเรื่อย ถ้าตามพี่ ผมอาจจะจบ แต่ผมอาจตามพี่ไปได้อีกไม่ไกลนะ”

วินาทีนั้น ตัดสินใจบอกไปว่า “เราไปเข้าเส้นชัยพร้อมกัน!” (กรูพูดอะไรออกไป!!)

ตามประสาคนมาเกาะ จะบอกเค้าว่า  ไปได้เลยนะ ถ้าเราช้า วิ่งกับเรา อาจกลายเป็นภาระ …

น้องบอกว่า “ผมสิกลัวเป็นภาระพี่ จบเท่าไหร่ก็ได้พี่ ผมว่ายังไงก็ดีกว่า DNF!”

เลยได้วิ่งด้วยกัน เร่งพร้อมกัน ชะลอพร้อมกัน กินน้ำพร้อมกัน ล้างหน้าพร้อมกัน รับน้ำมนต์พร้อมกัน ฉี่พุ่มไม้พร้อมกัน! (คนละพุ่ม!)

สอนอะไรไปหลายอย่าง (ก็ไม่รู้อยากฟังรึป่าว 555) ลากให้วิ่ง ดึงให้ช้า เร่ง ชะลอ ให้กำลังใจกันไปมา ด้วยการถามว่าจะ DNF ไหม๊? 55555

พอเลยจุดกลับตัวมา แซงได้หลายคน พอแซงได้หลายคน น้องดูมีกำลังใจ แรงดูเหลือ (จริงๆเหลือป่าวไม่รู้ 555 ไม่ได้ถาม)

พอถึงโล 30 เห็นว่าอาการยังดี เลยเร่งอีกหน่อย แซงไปอีกหลายคนอยู่ ซึ่งในขณะนั้นหลายคนเริ่มเดินแล้ว เพราะแดดส่องหน้าแล้ว ร้อนมากๆ

แต่น้องก็ดูกำลังใจดี วิ่งมาเรื่อยตามแผนจนเริ่มหมดกันช่วงโล 39-40 หันไปบอกน้องว่า “ไปก่อนเลยน้อง พี่เริ่มหมด 555”

“พี่ไม่ทิ้งผม ผมจะทิ้งพี่ได้ไง ถึงคลานผมก็จะเข้าเส้นชัยพี่!” น้องตั้มกล่าว …

ฉากประทับใจครับ ฉากประทับใจ … นี่ถ้ามี soundtrack เปิดคลอ อาจมีเสียน้ำตาแทนเสียเหงื่อ …

แต่ความประทับใจก็ไม่เกี่ยวอะไรกับแรงที่หมด … หมดคือหมด 555

ปกติวิ่งคนเดียวตลอด ไม่ว่าฟูล ฮาฟท์ หรือมินิ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีเพื่อนวิ่งเกือบตลอดเส้นทาง จนเข้าเส้นชัย … มันก็ไม่เลวนะน้อง ^_^

เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก มันดีใจ มันภูมิใจ มันไม่ใช่เราทำเพื่อตัวเองคนเดียว แต่เราทำให้อีกคนที่ต้องการมากๆ … ได้พาคนๆนึง ที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะวิ่งจบ 42 กิโลไหม๊ แต่ที่แน่ๆ กล้าพอที่จะลงวิ่งวัดใจดูเลย …

เสียดายที่เข้าเส้นชัยปุ๊บ ยกมือไหว้ขอบคุณกัน จับมือ และกอดกัน … (ใช่ ผช.สมัยนี้ นอกจากยกมือไหว้กันแล้ว เค้ายังกอดทักทายกับลาจากกันด้วย!) ก็ไม่ได้ selfie กันไว้ เบอร์ก็ไม่ได้แลก เฟซก็ไม่ได้ถาม …

เขียนถึงตรงนี้ เพื่อมาขอบคุณและแสดงความยินดีกับน้องตั้มอย่างเป็นทางการ … ก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว พี่ลากน้อง หรือน้องลากพี่กันแน่!

น้องตั้มฝังตัวอยู่ในกรุ๊ปนี้แหละครับ แต่สงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่เม้นท์ไม่โพสท์  … ใครคือน้องตั้มคนนั้น แสดงตัวหน่อยเร๊ว!

ปล. ส่วนตัว ขอเรียกระยะฟูลมาราธอนว่าเป็น “ระยะจีบติด” … คือมันไกลพอสมควร ใช้เวลาพอควรที่จะได้คุยกัน เปิดใจทำความรู้จักกัน … และลำบากพอที่จะเกื้อกูลกันไปมาจนถึงเส้นชัย

ถ้าหนุ่มแอบชอบสาวคนไหน หรือสาวไหนแอบมองหนุ่มคนนั้นอยู่ คิดว่าถ้าได้วิ่งด้วยกันจนเข้าเส้นชัย โอกาสจีบติดมีถึงร้อยละ 90!

เพราะกับตั้ม ก็เกือบได้เป็นผัวเมียกันหลังเข้าเส้นชัยเหมือนกัน! 555

มาราธอนแรกมีครั้งเดียว …

ลากคนลงมาราธอนแรกให้จบได้เป็นครั้งแรก … ก็มีครั้งเดียวเหมือนกัน ^_^

ใครจะรู้ … ปีหน้าตั้มอาจต้องลากคนลงมาราธอนแรกให้จบก็เป็นได้ …

#payitforward

 

Leave a comment